Honda Accord มือสอง

✅ จุดเด่นหลักของ Honda Accord มือสอง (รวมทุกเจเนอเรชัน)

1. ความหรูหราและความกว้างขวางของห้องโดยสาร

• ห้องโดยสารภายในออกแบบสไตล์หรูหรา พื้นที่กว้างขวาง

• วัสดุภายในพรีเมียม มีเบาะหนังคุณภาพสูง

• เบาะหลังนั่งสบาย มีพื้นที่วางขาเยอะ

2. สมรรถนะดี ขับขี่นุ่มนวล

• เครื่องยนต์ตอบสนองไว ทั้งแบบเบนซิน ธรรมดา เทอร์โบ และไฮบริด

• เกียร์ทำงานนุ่มนวล รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและทางไกล

• มีช่วงล่างที่ให้ความมั่นคงแต่ยังคงความนุ่ม

3. ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยี

• ตั้งแต่รุ่นปี 2019 (โฉมที่ 10) ขึ้นไปมี Honda Sensing ครบชุด เช่น:

  • Adaptive Cruise Control

  • Lane Keeping Assist

  • Collision Mitigation Braking System (CMBS)

• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตา (Honda LaneWatch)

• ถุงลมนิรภัยรอบคัน, ระบบควบคุมการทรงตัว VSA, ระบบเตือนจุดอับสายตา ฯลฯ

4. ดีไซน์ทันสมัยและภาพลักษณ์ดูดี

• ภายนอกดูภูมิฐาน สปอร์ต แต่ไม่หลุดกรอบความหรู

• เหมาะสำหรับคนทำงาน ผู้บริหาร หรือผู้ที่ต้องการภาพลักษณ์น่าเชื่อถือ

5. เทคโนโลยีความสะดวกสบาย

• มีจอสัมผัสระบบ Infotainment (รองรับ Apple CarPlay / Android Auto ในรุ่นใหม่)

• เบาะนั่งไฟฟ้า, ระบบแอร์อัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา

• รุ่นท็อปมี HUD, Wireless Charging, กล้องรอบคัน, ระบบปรับอากาศอัจฉริยะ

6. ความทนทาน และราคาขายต่อดี

• อะไหล่หาง่าย ซ่อมง่าย ศูนย์บริการมีทั่วประเทศ

• ราคามือสองยังคงมูลค่าได้ดี โดยเฉพาะรุ่นปีใหม่และโฉมยอดนิยม

✅ โฉมที่ 11 (ปี 2023–ปัจจุบัน) (G11)

• รุ่นย่อย: e:HEV E, e:HEV EL, e:HEV RS

• เครื่องยนต์: ไฮบริด e:HEV

• จุดเด่น:

  • เทคโนโลยีล้ำสมัย

  • ระบบความปลอดภัย Honda Sensing

  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง

  • รองรับการชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

• ราคาใหม่: เริ่มต้นประมาณ 1,529,000 บาท ถึง 1,799,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

✅ โฉมที่ 10 (ปี 2019–2022) (G10)

• รุ่นย่อย: TURBO EL, TURBO TECH, TURBO RS

• เครื่องยนต์: 1.5L Turbo 192 แรงม้า

• จุดเด่น:

  • ดีไซน์ทันสมัย

  • ระบบ Honda Sensing

  • กล้องรอบคัน

  • เบาะไฟฟ้า

  • หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่

• ราคาในตลาดมือสอง: เริ่มต้นประมาณ 790,000 บาท ถึง 1,100,000 บาท ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ

✅ โฉมที่ 9 (ปี 2013–2019) (G9)

• รุ่นย่อย: 2.0 EL, 2.0 EL Navi, 2.4 EL, 2.4 EL Navi, 2.4 TECH

• เครื่องยนต์:

  • 2.0L i-VTEC 155 แรงม้า

  • 2.4L i-VTEC 174 แรงม้า

• จุดเด่น:

  • ระบบความปลอดภัย CMBS

  • Lane Watch

  • i-MID

  • เบาะไฟฟ้า 8 ทิศทาง

  • รองรับ E85

• ราคาในตลาดมือสอง: เริ่มต้นประมาณ 370,000 บาท ถึง 700,000 บาท ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ

✅ โฉมที่ 8 (ปี 2008–2012) (G8)

• รุ่นย่อย: 2.0 EL, 2.0 EL Navi, 2.4 EL, 2.4 EL Navi

• เครื่องยนต์:

  • 2.0L i-VTEC 155 แรงม้า

  • 2.4L i-VTEC 190 แรงม้า

• จุดเด่น:

  • ดีไซน์สปอร์ต

  • ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน

  • เบาะหนังคุณภาพสูง

• ราคาในตลาดมือสอง: เริ่มต้นประมาณ 300,000 บาท ถึง 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ

✅ โฉมที่ 7 (ปี 2003–2007) (G7)

• รุ่นย่อย: 2.0 EL, 2.4 EL

• เครื่องยนต์:

  • 2.0L i-VTEC 155 แรงม้า

  • 2.4L i-VTEC 190 แรงม้า

• จุดเด่น:

  • ความทนทานสูง

  • ห้องโดยสารกว้างขวาง

  • ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

• ราคาในตลาดมือสอง: เริ่มต้นประมาณ 200,000 บาท ถึง 350,000 บาท ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ

✅ โฉมที่ 6 (ปี 1998–2002) (G6)

• รุ่นย่อย: 2.0 EL, 2.3 EL

• เครื่องยนต์:

  • 2.0L i-VTEC 145 แรงม้า

  • 2.3L i-VTEC 150 แรงม้า

• จุดเด่น:

  • ความทนทานสูง

  • ห้องโดยสารกว้างขวาง

  • ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

• ราคาในตลาดมือสอง: เริ่มต้นประมาณ 100,000 บาท ถึง 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ

✅ โฉมที่ 5 (ปี 1994–1997) (G5)

• รุ่นย่อย: 2.0 EL

• เครื่องยนต์:

  • 2.0L i-VTEC 145 แรงม้า

• จุดเด่น:

  • ความทนทานสูง

  • ห้องโดยสารกว้างขวาง

  • ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

• ราคาในตลาดมือสอง: เริ่มต้นประมาณ 50,000 บาท ถึง 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ