ช่วงเทศกาลปีใหม่หรือวันหยุดยาว หลายคนต้องขับรถเดินทางไกล ไม่ว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดหรือออกทริปท่องเที่ยว หนึ่งในวิธี “ประหยัดน้ำมัน” ที่ถูกพูดถึงกันมานานคือ การปิดแอร์แล้วเปิดกระจกแทน ด้วยความเชื่อว่าคอมเพรสเซอร์แอร์กินแรงเครื่องยนต์มาก ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น
แต่คำถามคือ ปิดแอร์เปิดกระจก ประหยัดน้ำมันจริงไหม หรือเป็นแค่ความเชื่อที่ทำตามกันมานานโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบแบบชัด ๆ อิงหลักการทำงานของรถยนต์จริง เพื่อให้คุณเลือกวิธีขับขี่ที่ประหยัดและเหมาะสมที่สุด
ปิดแอร์เปิดกระจก คือแนวคิดมาจากอะไร
ความเชื่อนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล เพราะในรถยนต์รุ่นเก่า ระบบปรับอากาศต้องใช้กำลังจากเครื่องยนต์โดยตรง ทำให้รอบเครื่องสูงขึ้นและกินน้ำมันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรวมกับประสบการณ์ของผู้ใช้รถในอดีต จึงเกิดความเชื่อว่า “ถ้าไม่เปิดแอร์ เครื่องยนต์จะทำงานเบาลง และประหยัดน้ำมันมากกว่า” แนวคิดนี้จึงถูกส่งต่อกันมาจนกลายเป็นพฤติกรรมที่หลายคนยังทำอยู่จนถึงปัจจุบัน
ปิดแอร์เปิดกระจก ประหยัดน้ำมันจริงไหม? (คำตอบสั้น ๆ)
คำตอบคือ ไม่เสมอไป และบางกรณีอาจเปลืองกว่าเดิม
เหตุผลสำคัญไม่ได้อยู่แค่เรื่องแอร์ แต่เกี่ยวข้องกับ “แรงต้านอากาศ” โดยตรง
เปิดกระจกทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มได้อย่างไร
เมื่อรถวิ่ง กระแสลมจะไหลผ่านตัวถังอย่างต่อเนื่อง รถยนต์ถูกออกแบบให้มีรูปทรงลู่ลม (Aerodynamic) เพื่อช่วยลดแรงต้านอากาศ
แต่เมื่อคุณ เปิดกระจก
- ลมจะพุ่งเข้าห้องโดยสาร
- เกิดกระแสอากาศปั่นป่วนภายใน
- แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นทันที
ผลที่ตามมาคือ เครื่องยนต์ต้องใช้แรงมากขึ้นเพื่อรักษาความเร็ว ส่งผลให้ กินน้ำมันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
แล้วแอร์กินน้ำมันแค่ไหนกันแน่
รถยนต์สมัยใหม่ถูกพัฒนาให้ระบบแอร์ทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับรถยุคก่อน
โดยทั่วไป
- การเปิดแอร์จะเพิ่มอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 5–10%
- ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ ความเร็ว และอุณหภูมิภายนอก
ซึ่งในหลายสถานการณ์ การเปิดแอร์กลับ ประหยัดกว่าเปิดกระจก โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูง
สถานการณ์ไหน “ปิดแอร์เปิดกระจก” ยังพอใช้ได้
แม้ความเชื่อจะไม่ถูกต้องเสมอไป แต่ก็มีบางกรณีที่การปิดแอร์เปิดกระจก ไม่ได้เสียหายมากนัก
กรณีที่อาจไม่เปลืองมาก
- ขับรถด้วยความเร็วต่ำ (ต่ำกว่า 60 กม./ชม.)
- ขับในหมู่บ้าน ซอย หรือการจราจรติดขัด
- เปิดกระจกเพียงเล็กน้อย ไม่เปิดสุดบาน
ในกรณีเหล่านี้ แรงต้านอากาศยังไม่สูงมาก การไม่เปิดแอร์อาจช่วยลดภาระเครื่องยนต์ได้เล็กน้อย
สถานการณ์ไหนที่ “เปิดแอร์” ประหยัดกว่าแน่นอน
สำหรับการเดินทางช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะการขับรถทางไกล
เปิดแอร์จะดีกว่าเมื่อ
- ใช้ความเร็วมากกว่า 80–90 กม./ชม.
- ขับบนทางด่วน หรือถนนโล่งยาว ๆ
- รถบรรทุกของ หรือมีผู้โดยสารหลายคน
ในสถานการณ์เหล่านี้ แรงต้านอากาศจากการเปิดกระจกจะกินน้ำมันมากกว่าภาระจากแอร์อย่างชัดเจน
ผลกระทบอื่นที่หลายคนมองข้าม
นอกจากเรื่องน้ำมันแล้ว การปิดแอร์เปิดกระจกยังมีผลกระทบด้านอื่น ๆ
ด้านความสบายและความปลอดภัย
- ห้องโดยสารร้อน ทำให้ผู้ขับเหนื่อยง่าย
- เสี่ยงง่วงหรือสมาธิลดลง
- เสียงลมดังรบกวนการขับขี่
ด้านสุขภาพ
- ฝุ่น PM2.5 และมลพิษเข้าสู่ห้องโดยสาร
- กลิ่นไอเสียจากรถคันอื่น
- ลมปะทะตรงหู อาจทำให้ปวดศีรษะหรือไม่สบาย
วิธีใช้แอร์ให้ประหยัดน้ำมันจริง
ถ้าไม่อยากสิ้นเปลือง แต่ก็ไม่อยากทนร้อน ลองใช้วิธีเหล่านี้แทน
เทคนิคใช้แอร์แบบประหยัด
- เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 24–26 องศา
- เปิดพัดลมระดับกลาง ไม่เร่งสุดตลอดเวลา
- ปิดกระจกให้สนิททุกบาน
- ใช้โหมดหมุนเวียนอากาศภายใน (Recirculation)
- ดูแลแผ่นกรองแอร์ให้สะอาด
วิธีเหล่านี้ช่วยลดภาระคอมเพรสเซอร์ และช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้จริงกว่าการปิดแอร์
สรุป ปิดแอร์เปิดกระจก ประหยัดน้ำมันจริงไหม
คำตอบที่ชัดเจนคือ ไม่จริงเสมอไป และในหลายกรณีอาจเปลืองกว่าเดิม โดยเฉพาะการขับรถทางไกลช่วงปีใหม่ การ เปิดแอร์และปิดกระจก มักเป็นทางเลือกที่ประหยัด ปลอดภัย และสบายกว่ามาก การประหยัดน้ำมันที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่การทนร้อน แต่คือการเลือกใช้รถให้เหมาะกับสถานการณ์ เข้าใจหลักการทำงานของรถ และขับขี่อย่างมีสติ ก่อนออกทริปครั้งหน้า ลองเปลี่ยนความเชื่อเดิม ๆ แล้วคุณอาจประหยัดน้ำมันได้มากกว่าที่คิด












