การโอนรถยนต์เป็นขั้นตอนที่ผู้ซื้อ–ผู้ขายรถมือสองต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้การเปลี่ยนเจ้าของเป็นทางการต่อกรมการขนส่งทางบก ในปี 2568 ขั้นตอนและเอกสารต่าง ๆ ยังคงใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แต่มีรายละเอียดสำคัญที่ผู้ใช้รถควรรู้ล่วงหน้า เช่น การเตรียมสำเนาเอกสาร การนำรถเข้าตรวจสภาพ รวมถึงค่าธรรมเนียมที่อัปเดตล่าสุด เพื่อทำให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินเรื่องหลายรอบ
วิธีโอนรถ 2568 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
เอกสารที่ใช้ในการโอนรถแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย โดยต้องมีเอกสารฉบับจริงพร้อมสำเนา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง
เอกสารที่ผู้ขายต้องเตรียม
- เล่มทะเบียนรถ (ตัวจริง)
- บัตรประชาชน (ตัวจริง และสำเนาเซ็นรับรอง)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบคนอื่นไปแทน)
- เอกสารยืนยันการชำระภาษี/พรบ. ล่าสุด
- ใบเสร็จค่าเบี้ยประกัน (ถ้ามี)
เอกสารที่ผู้ซื้อต้องเตรียม
- บัตรประชาชน (ตัวจริง + สำเนา)
- ที่อยู่ปัจจุบัน (สำหรับทำสำเนาในสัญญาซื้อขาย)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้าผู้ซื้อไม่ได้ไปด้วยตัวเอง)
รถที่ต้องตรวจสภาพก่อนโอน มีอะไรบ้าง?
กรมการขนส่งฯ จะกำหนดให้รถบางประเภทต้องนำมาตรวจสภาพก่อนดำเนินการโอน เพื่อยืนยันความปลอดภัยและมาตรฐานของตัวรถ
รถที่ต้องตรวจสภาพก่อนโอน
- รถยนต์ที่มี อายุใช้งานเกิน 7 ปี
- รถจักรยานยนต์ที่มี อายุเกิน 5 ปี
- รถดัดแปลง เช่น รถติดแก๊ส NGV/LPG
- รถที่มีประวัติเกิดอุบัติเหตุหนักแล้วเปลี่ยนโครงสร้าง
รายการที่เจ้าหน้าที่จะตรวจ
- หมายเลขตัวถัง
- หมายเลขเครื่องยนต์
- ระบบไฟส่องสว่าง
- ระบบเบรกและช่วงล่าง
- สภาพโดยรวมว่าปลอดภัยหรือไม่
ขั้นตอนโอนรถยนต์ปี 2568 แบบละเอียด
การโอนรถสามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบกทุกพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องเป็นจังหวัดที่จดทะเบียนรถไว้ ซึ่งขั้นตอนหลักมีทั้งหมดดังนี้
1. ทำสัญญาซื้อขายรถ
ควรจัดทำเอกสารสัญญาซื้อขายระบุ
- รายละเอียดคู่สัญญา
- ราคาที่ตกลง
- วัน–เวลารับ–ส่งรถ
- เงื่อนไขต่าง ๆ
แม้จะไม่ใช่เอกสารที่ต้องยื่น แต่สำคัญมากเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดภายหลัง
2. ตรวจสภาพรถ (ถ้าจำเป็น)
นำรถเข้าตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพเอกชน (ตรอ.) หรือสถานีขนส่ง เพื่อรับใบสรุปผลตรวจสภาพ
3. เตรียมเอกสารยื่นโอน
รวมเอกสารผู้ซื้อ–ผู้ขายให้พร้อม ตรวจสอบข้อมูลให้ครบ เช่น
- ลายเซ็นในใบมอบอำนาจ
- สำเนาบัตรประชาชน
- รายละเอียดที่อยู่
4. ยื่นเรื่องที่สำนักงานขนส่ง
ไปที่ช่อง “งานทะเบียน” เพื่อ
- ยื่นเอกสาร
- ชำระค่าธรรมเนียม
- รอเรียกรับเอกสารคืน
หากเอกสารครบ ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาเฉลี่ย 30–60 นาที
5. รับเล่มทะเบียนคืน และตรวจสอบความถูกต้อง
เมื่อเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนใหม่เสร็จ จะคืนเล่มทะเบียนพร้อมชื่อผู้ครอบครองใหม่ ตรวจดูให้ครบว่า
- ชื่อผู้ครอบครองใหม่ถูกต้อง
- วันที่โอน
- รายการแก้ไขหน้าเล่ม
ค่าธรรมเนียมโอนรถยนต์ปี 2568 ล่าสุด
การโอนรถมีค่าใช้จ่ายตามอัตราของกรมการขนส่งฯ ดังนี้
ค่าธรรมเนียมมาตรฐาน
- ค่าคำขอ: 5 บาท
- ค่าโอน: 100 บาท
- ค่าพิมพ์ใบคู่มือจดทะเบียน: 50 บาท
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
- ค่าตรวจสภาพรถ 200–300 บาท
- ค่ามอบอำนาจ (ตำแหน่งกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน) 20–50 บาท
- ค่าตรวจสภาพ ตรอ. กรณีติดแก๊ส 300–500 บาท
ก่อนโอนรถ ควรตรวจอะไรบ้าง?
เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ผู้ซื้อควรตรวจสภาพเอกสารและข้อมูลรถก่อนทำการโอน
Checklist สำคัญ
- เช็กภาษี–พรบ. ว่ายังไม่ขาดการต่ออายุ
- เลขตัวถัง–เลขเครื่องตรงกับเล่มทะเบียน
- ไม่มีการแจ้งอายัด หรือคดีความ
- ไม่มีภาระค้ำประกันไฟแนนซ์ หรือค้างงวด
- รถไม่ใช่รถประมูลที่ไม่มีเอกสารต้นขั้ว
- มีใบเสร็จซื้อขายที่ชัดเจน
สิ่งเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ซื้อหลังการโอนเสร็จสิ้น
คำแนะนำสำหรับคนโอนรถครั้งแรก
เคล็ดลับทำให้โอนรถเร็วขึ้น
- ไปในช่วงเช้า คนยังไม่เยอะ
- เตรียมเอกสารสำเนา 2 ชุด เผื่อสำรอง
- ตรวจเอกสารในเล่มทะเบียนให้ครบก่อนไปยื่น
- ถ้ารถเก่ามาก แนะนำให้ตรวจสภาพล่วงหน้าเพื่อประหยัดเวลา
สรุป
การโอนรถยนต์แม้ดูเหมือนเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่จริง ๆ แล้วทำตามลำดับอย่างถูกต้องก็จะใช้เวลาไม่นาน สิ่งสำคัญคือการเตรียมเอกสารให้ครบ ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง และเข้าใจ วิธีโอนรถ 2568 ตามขั้นตอนที่กรมการขนส่งฯ กำหนด ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย หากเตรียมตัวดี จะสามารถโอนรถได้เสร็จภายในวันเดียวแบบไร้ปัญหา
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
