ขายรถแต่อยากเก็บป้ายทะเบียนไว้ ทำได้ไหม?

หลายคนที่มีป้ายทะเบียนเลขสวยหรือเลขมงคล มักเกิดคำถามขึ้นทันทีเมื่อถึงเวลาจะขายรถว่า “ขายรถแต่อยากเก็บป้ายทะเบียนไว้ ทำได้ไหม?” โดยเฉพาะคนที่เคยประมูลป้ายทะเบียนในราคาหลักหมื่นหรือหลักแสน ย่อมไม่อยากให้เลขที่รักหรือเลขมงคลต้องไปอยู่กับเจ้าของใหม่ การเก็บป้ายไว้ใช้กับรถคันต่อไปจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนอยากทำ แต่ต้องรู้ขั้นตอนให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก

เหตุผลที่เจ้าของรถอยากเก็บป้ายทะเบียนไว้

สำหรับคนที่มี “ป้ายเลขสวย” มักมีทั้งคุณค่าทางใจและมูลค่าทางการเงิน บางคนเชื่อว่าเป็นเลขนำโชค ช่วยเสริมดวง บางคนใช้เป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ธุรกิจ เช่น ป้ายทะเบียนที่มีชื่อย่อบริษัท หรือเลขที่จำง่าย ส่วนบางคนก็ไม่อยากให้ป้ายเลขสวยตกไปอยู่กับคนอื่น เพราะใช้มานานและมีความผูกพัน

ทำได้จริงไหม ถ้าอยากขายรถแต่เก็บป้ายไว้

คำตอบคือ ทำได้ แต่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก โดยเจ้าของรถต้องแจ้ง “ขอเก็บหมายเลขทะเบียนไว้ใช้กับรถคันใหม่” ก่อนโอนรถให้ผู้ซื้อ เมื่อแจ้งแล้ว หมายเลขนั้นจะถูกเก็บไว้ในชื่อของเจ้าของเดิม และรถคันที่ขายออกไปจะได้รับหมายเลขทะเบียนใหม่แทน

เงื่อนไขสำคัญที่ต้องรู้

การเก็บป้ายทะเบียนไว้ใช้ต่อ ไม่ได้ทำได้ทุกกรณี แต่ต้องเข้าเกณฑ์ดังนี้

  • เจ้าของรถต้องเป็นบุคคลเดียวกับผู้ครอบครองป้ายทะเบียน
  • ทะเบียนต้องไม่อยู่ในระหว่างอายัด หรือถูกระงับการใช้
  • ต้องแจ้งขอเก็บหมายเลขไว้ก่อนโอนขาย
  • สามารถเก็บไว้ได้ไม่เกิน 1 ปีนับจากวันที่ขอเก็บ หากเกินกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์

ขั้นตอนการแจ้งขอเก็บป้ายทะเบียน

  1. นำรถพร้อมเล่มทะเบียนไปที่สำนักงานขนส่งที่จดทะเบียนไว้
  2. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการ “เก็บหมายเลขทะเบียนไว้ใช้กับรถคันใหม่”
  3. เจ้าหน้าที่จะถอนหมายเลขทะเบียนออกจากรถคันเดิมและเก็บไว้ในระบบชื่อของคุณ
  4. รถคันเดิมจะได้รับหมายเลขใหม่สำหรับใช้โอนขายต่อ

หลังจากนั้น คุณจะมีสิทธิ์ถือครองหมายเลขเดิมไว้ในระบบได้ 1 ปีเต็ม เพื่อรอจดทะเบียนกับรถคันใหม่ หากเลยกำหนดโดยไม่ใช้งาน กรมการขนส่งสามารถนำเลขนั้นกลับไปเปิดประมูลใหม่ได้

เอกสารที่ใช้ในการดำเนินการ

  • บัตรประชาชนของเจ้าของรถ
  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน)
  • แบบฟอร์มขอเก็บหมายเลขทะเบียน (รับได้ที่ขนส่ง)
  • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีให้ผู้อื่นดำเนินการแทน)

บางกรณีเจ้าหน้าที่อาจขอเอกสารการขายหรือหลักฐานการโอน เพื่อยืนยันเจตนาว่าจะขายรถจริง

ใช้ป้ายทะเบียนเดิมกับรถคันใหม่ได้ทุกประเภทไหม

หมายเลขทะเบียนเดิมจะใช้ต่อได้เฉพาะกับรถประเภทเดียวกันเท่านั้น เช่น

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ใช้ต่อกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • รถกระบะ ใช้ต่อกับรถกระบะ

ไม่สามารถนำหมายเลขทะเบียนรถยนต์ไปใช้กับรถจักรยานยนต์ หรือรถประเภทอื่นได้ นอกจากนี้ รถคันใหม่ต้องจดทะเบียนในชื่อเดียวกับเจ้าของหมายเลขเดิมเท่านั้น

ข้อควรระวังที่มักถูกมองข้าม

สิ่งที่เจ้าของรถหลายคนมักพลาดคือ “รีบโอนรถก่อนแจ้งเก็บเลข” ซึ่งถือว่าผิดลำดับขั้นตอน เพราะทันทีที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ หมายเลขทะเบียนจะกลายเป็นของเจ้าของใหม่โดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่สามารถขอเก็บไว้ได้อีก

อีกประเด็นที่ควรระวังคือ หากหมายเลขทะเบียนอยู่ระหว่างอายัดจากคดี หรือมีการค้างภาษีประจำปี ก็จะไม่สามารถดำเนินการขอเก็บหมายเลขได้เช่นกัน

ค่าธรรมเนียมในการเก็บป้ายทะเบียน

ค่าธรรมเนียมไม่ได้สูงมากนัก โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ

  • ค่าธรรมเนียมขอเก็บหมายเลขทะเบียน 100 บาท
  • ค่าธรรมเนียมออกหมายเลขทะเบียนใหม่ให้รถคันเดิม 200 บาท

ราคานี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสำนักงานขนส่ง แต่โดยรวมถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการรักษาเลขสวยไว้ใช้ต่อ

ตัวอย่างสถานการณ์จริง

ตัวอย่างเช่น คุณมีรถ Toyota Altis หมายเลขทะเบียน “กข 8888 กรุงเทพมหานคร” และต้องการขายรถคันนี้ แต่ยังอยากเก็บเลขไว้ใช้กับรถใหม่ ให้ไปแจ้งขอเก็บหมายเลขไว้ก่อนขาย เมื่อดำเนินการเรียบร้อย รถ Altis จะได้รับป้ายใหม่ ส่วนเลข “กข 8888” จะถูกเก็บไว้ในชื่อคุณ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับรถใหม่ภายใน 1 ปี แต่หากขายรถไปก่อนโดยไม่แจ้งเก็บป้าย เลขนั้นจะตกเป็นของเจ้าของใหม่ทันที และไม่สามารถขอคืนได้

สรุป ขายรถแต่อยากเก็บป้ายทะเบียนไว้ ทำได้จริง แต่ต้องทำให้ถูกขั้นตอน

คำตอบของคำถามยอดนิยม “ขายรถแต่อยากเก็บป้ายทะเบียนไว้ ทำได้ไหม?” คือ ทำได้จริง แต่ต้องดำเนินการให้ถูกลำดับ โดยแจ้งกรมการขนส่งทางบกก่อนโอนขาย และเก็บเลขไว้ใช้กับรถประเภทเดียวกันภายในหนึ่งปี

สิ่งสำคัญคือ

  • ต้องแจ้งเก็บหมายเลขก่อนขายรถ
  • ต้องเป็นเจ้าของป้ายทะเบียนคนเดียวกับรถคันใหม่
  • หากเกินกำหนดหนึ่งปี หมายเลขอาจถูกนำกลับไปประมูล

การเก็บป้ายทะเบียนเดิมไม่เพียงช่วยรักษาเลขมงคลไว้กับตัว แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจและความภาคภูมิใจของเจ้าของรถที่อยากให้เลขสวยอยู่คู่กับรถคันใหม่ต่อไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย