รถโดนล็อคล้อเพราะจอดผิดที่ จ่ายค่าปรับเท่าไหร่
ปัญหา “รถโดนล็อคล้อ” ถือเป็นเรื่องที่หลายคนอาจเคยเจอหรือเกือบเจอ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ที่มีข้อจำกัดเรื่องที่จอดรถ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือโซนชุมชนหนาแน่น การจอดในที่ห้ามจอดแม้เพียงไม่กี่นาที อาจทำให้รถถูกเจ้าหน้าที่ล็อคล้อทันที ซึ่งนอกจากจะเสียเวลา ยังต้องเสียค่าปรับอีกไม่น้อย บทความนี้จะพาไปดูว่า หากรถโดนล็อคล้อเพราะจอดผิดที่ ต้องทำยังไงบ้าง ต้องจ่ายค่าปรับเท่าไหร่ และมีวิธีป้องกันอย่างไรไม่ให้โดนล็อกอีกในอนาคต
รถโดนล็อคล้อคืออะไร
การ “ล็อคล้อ” คือมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจร เพื่อป้องกันการจอดรถในที่ห้ามจอด เจ้าหน้าที่จะใช้ “ที่ล็อคล้อ” (Wheel Clamp) มาติดบริเวณล้อรถ เพื่อไม่ให้รถเคลื่อนที่ได้ จนกว่าผู้กระทำผิดจะชำระค่าปรับตามกฎหมาย
จุดประสงค์ของการล็อคล้อ
- เพื่อควบคุมการจอดรถในพื้นที่ห้ามจอด
- เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่หลบหนีการชำระค่าปรับ
- เพื่อสร้างวินัยในการใช้รถใช้ถนน
โดยทั่วไป การล็อคล้อจะใช้กับรถที่จอดในที่ห้ามจอดตามป้ายจราจร จอดบนทางเท้า จอดขวางทางเข้า-ออก หรือจอดกีดขวางการจราจร
ทำไมถึงรถโดนล็อคล้อ
หลายคนอาจสงสัยว่า “แค่จอดไม่นาน ทำไมถึงโดนล็อคล้อ?” ซึ่งสาเหตุหลักมักเกิดจากการฝ่าฝืนข้อห้ามเหล่านี้
สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้รถโดนล็อคล้อ
- จอดในที่มีป้าย “ห้ามจอดตลอดเวลา”
- จอดขวางประตูบ้านหรือซอยทางเข้าออก
- จอดบนทางเท้าหรือฟุตบาท
- จอดในช่องจอดที่สงวนไว้ เช่น รถขนส่งสาธารณะ หรือรถคนพิการ
- จอดเกินเวลาที่กำหนดในพื้นที่มีจำกัดเวลา
บางกรณี เช่น การจอดในพื้นที่เอกชน (เช่น ห้างหรือหมู่บ้าน) เจ้าของพื้นที่ก็อาจมีสิทธิ์ล็อคล้อได้ตามกติกาภายใน ซึ่งแตกต่างจากเจ้าหน้าที่รัฐ
รถโดนล็อคล้อ ต้องทำยังไง
หากรถของคุณถูกล็อคล้อ ไม่ต้องตกใจ และที่สำคัญอย่าพยายามงัดหรือทำลายที่ล็อก เพราะถือเป็นความผิดเพิ่มเติมได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนเมื่อรถโดนล็อคล้อ
- สังเกตป้ายหรือใบแจ้งล็อค
บนกระจกหน้ารถจะมีใบแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ระบุหน่วยงานที่ล็อค เช่น สำนักงานเขต สน. หรือเทศกิจ พร้อมเบอร์ติดต่อ - โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่ให้ไว้
เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการปลดล็อคล้อ โดยมักจะต้องรอ 10-30 นาที - ชำระค่าปรับในที่เกิดเหตุ หรือที่จุดชำระที่กำหนด
ปัจจุบันบางพื้นที่อนุญาตให้จ่ายค่าปรับผ่าน QR Code หรือ e-payment ได้ทันที - รับใบเสร็จรับเงิน และตรวจสอบล้อหลังปลดเสร็จ
อย่าลืมตรวจดูว่าล้อและตัวรถไม่มีรอยเสียหายก่อนขับออก
ค่าปรับรถโดนล็อคล้อล่าสุดปี 2568
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 57(5) กำหนดว่า ผู้ใดจอดรถในที่ห้ามจอด มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท แต่ในทางปฏิบัติ หน่วยงานแต่ละพื้นที่อาจมีเรทราคาค่าปรับแตกต่างกัน
ตัวอย่างอัตราค่าปรับทั่วไป
- เขตกรุงเทพฯ (สำนักงานเขต / ตำรวจจราจร): ปรับ 500 บาท
- เทศบาลนคร / อบต. ต่างจังหวัด: ปรับ 200–500 บาท
- พื้นที่เอกชน เช่น ห้างสรรพสินค้า: ค่าปรับหรือค่าบริการปลดล้อประมาณ 200–1,000 บาท ขึ้นอยู่กับกติกาของพื้นที่
หมายเหตุ : หากผู้ขับขี่พยายามทำลายที่ล็อคล้อ หรือเคลื่อนรถขณะถูกล็อค อาจมีโทษเพิ่มเติมตามกฎหมายอาญา ฐานทำลายทรัพย์สินของราชการ
ถ้ารถโดนล็อคล้อในพื้นที่เอกชน ทำยังไงดี
พื้นที่เอกชน เช่น ลานจอดห้าง หมู่บ้าน หรือคอนโด มักมีกฎระเบียบภายในที่อนุญาตให้ “ล็อคล้อ” เพื่อควบคุมการใช้พื้นที่ แต่การเรียกเก็บค่าปลดล็อกต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่แจ้งไว้ชัดเจน
สิ่งที่ควรรู้
- หากมีป้ายเตือน “จอดผิดล็อคล้อ” แสดงว่าเจ้าของพื้นที่มีสิทธิ์
- ค่าปลดล็อคควรมีการระบุชัด ไม่เอาเปรียบผู้ใช้บริการ
- หากรู้สึกว่าค่าปรับไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้รถโดนล็อคล้อ
อย่ารอให้เจ้าหน้าที่ล็อกก่อนถึงจะระวัง เพราะการป้องกันย่อมง่ายกว่าการจ่ายค่าปรับ
เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยคุณได้
- สังเกตป้าย “ห้ามจอด” หรือ “จอดได้ช่วงเวลา...” ก่อนจอด
- หลีกเลี่ยงการจอดในซอยแคบหรือหน้าทางเข้าอาคาร
- หากจำเป็นต้องจอดรอคน ให้เปิดไฟฉุกเฉินและอยู่ในรถเสมอ
- ใช้บริการที่จอดรถถูกกฎหมาย เช่น ลานจอดของเอกชนหรือห้าง
- ดาวน์โหลดแอปฯ แจ้งจอดรถถูกที่ (บางจังหวัดมีให้ใช้แล้ว)
สิทธิของเจ้าของรถเมื่อต้องชำระค่าปรับ
- เจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวขณะดำเนินการ
- ต้องออกใบเสร็จรับเงินหรือใบสั่งทุกครั้ง
- หากไม่แน่ใจความถูกต้อง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ควบคุมจราจร (ศูนย์ CSC) หรือสถานีตำรวจใกล้เคียง
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
