หลายคนที่ใช้รถคงเคยเจอสถานการณ์ จอดรถไว้ไม่กี่วัน พอมองเข้าไปตรงล้อกลับเห็นว่า “จานเบรกขึ้นสนิม” ภาพที่เห็นอาจทำให้เจ้าของรถกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่หรือไม่ ความจริงแล้วจานเบรกขึ้นสนิมสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย และมีทั้งกรณีที่ไม่อันตราย รวมถึงกรณีที่ควรรีบแก้ไข บทความนี้จะอธิบายสาเหตุ ความเสี่ยง และวิธีดูแลรักษาให้ปลอดภัย
จานเบรกคืออะไร และทำไมขึ้นสนิมง่าย
จานเบรก หรือ Brake Disc ทำจากเหล็กหล่อคุณภาพสูงซึ่งแข็งแรงและทนต่อความร้อน แต่เพราะเป็นโลหะ เมื่อเจอความชื้นหรืออากาศที่มีไอน้ำ จึงเกิดสนิมได้ง่าย โดยเฉพาะเวลารถถูกจอดทิ้งไว้นานโดยไม่ได้ใช้งาน
สาเหตุที่ทำให้จานเบรกขึ้นสนิม
สาเหตุของการเกิดสนิมบนจานเบรกมักจะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เจ้าของรถหลายคนมองข้าม ได้แก่
- ความชื้นในอากาศ โดยเฉพาะหน้าฝนหรือจอดใกล้แหล่งน้ำ
- ล้างรถแล้วจอดทันที น้ำที่เกาะอยู่บนจานไม่ได้ถูกขัดออกด้วยแรงเบรก
- จอดรถทิ้งไว้นาน ไม่มีการใช้งานเบรกเลย ทำให้สนิมสะสมมากขึ้น
- ฝุ่นและสิ่งสกปรก ที่เกาะบนจาน ร่วมกับความชื้น ทำให้เกิดสนิมเร็วกว่าเดิม
จานเบรกขึ้นสนิม อันตรายหรือไม่?
ถ้าสนิมที่ขึ้นเป็นเพียงคราบบาง ๆ มักไม่เป็นอันตราย เพราะเมื่อขับออกไปและแตะเบรกเล็กน้อย ผ้าเบรกจะเสียดสีกับจานจนสนิมหลุดออกไปเอง แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานจนสนิมหนาและกัดลึก จะทำให้ผิวจานไม่เรียบ ส่งผลให้เบรกสั่น มีเสียงดัง หรือแม้แต่เบรกได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อการขับขี่
อาการที่ควรระวัง
การสังเกตว่า “จานเบรกขึ้นสนิมจนเริ่มอันตราย” ทำได้จากสัญญาณง่าย ๆ เช่น เวลาขับแล้วเหยียบเบรกมีเสียงเอี๊ยดหรือเสียงครืด เบรกแล้วรถสั่นผิดปกติ ระยะเบรกยาวขึ้นกว่าที่ควร และเมื่อมองใกล้ ๆ เห็นสนิมหนาเป็นรอยลึกบนจานเบรก
วิธีป้องกันไม่ให้จานเบรกขึ้นสนิม
แม้จานเบรกขึ้นสนิมจะเลี่ยงได้ยาก แต่ก็มีวิธีลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้สนิมสะสมจนเป็นอันตราย
- หลังล้างรถ ควรขับรถสั้น ๆ แล้วแตะเบรกเบา ๆ เพื่อให้จานเบรกแห้ง
- หลีกเลี่ยงการจอดในที่ชื้นหรือกลางแจ้งที่ฝนตกบ่อย ถ้าจำเป็นควรใช้ผ้าคลุมรถที่กันน้ำ
- ใช้งานรถเป็นประจำ แม้ไม่ขับไกลก็แตะเบรกบ้างเพื่อขัดคราบสนิม
- หมั่นตรวจเช็กสภาพเบรก หากเห็นสนิมหนาหรือมีเสียงผิดปกติ ควรให้ช่างตรวจสอบทันที
สรุป
การที่ จานเบรกขึ้นสนิม ไม่ได้หมายความว่ารถมีปัญหาร้ายแรงเสมอไป ส่วนใหญ่เป็นแค่คราบผิวที่หลุดออกได้เองเมื่อใช้งาน แต่หากปล่อยไว้นานจนสนิมกัดลึก ก็อาจทำให้ระบบเบรกเสื่อมประสิทธิภาพและเกิดอันตรายได้ ดังนั้นเจ้าของรถควรดูแลง่าย ๆ ด้วยการขับรถเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการจอดในที่ชื้น และสังเกตอาการผิดปกติของเบรกอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้รถได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น