เทคนิคเช็กน้ำมันเครื่อง ก่อนเดินทางไกล
ไม่ว่าจะออกทริปท่องเที่ยวต่างจังหวัด หรือขับรถไปทำงานต่างพื้นที่ การดูแลรถก่อนเดินทางถือว่าเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ โดยเฉพาะ “น้ำมันเครื่อง” ซึ่งเปรียบเสมือนเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจของเครื่องยนต์ หากระดับน้ำมันต่ำ หรือใช้น้ำมันที่เสื่อมคุณภาพแล้ว เครื่องยนต์จะทำงานหนักขึ้น เกิดความร้อนสะสม และอาจทำให้พังกลางทางจนต้องจ่ายค่าซ่อมมหาศาล การตรวจเช็กน้ำมันเครื่องด้วยตัวเองจึงเป็นทริคง่าย ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจตลอดการเดินทาง
ทำไมน้ำมันเครื่องถึงมีความสำคัญ?
น้ำมันเครื่องมีบทบาทหลักในการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน และช่วยระบายความร้อนของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ หากขาดน้ำมันเครื่อง หรือมีปริมาณไม่เพียงพอ จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้น เกิดการทำงานผิดปกติ และเสี่ยงต่อการเสียหายรุนแรง
• หล่อลื่นชิ้นส่วนโลหะ ลดแรงเสียดทานและการสึกหรอ
• ช่วยระบายความร้อน จากการทำงานของเครื่องยนต์
• ป้องกันสิ่งสกปรก ลดการเกิดคราบเขม่าและตะกอน
• ยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ ทำให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
หากไม่มีน้ำมันเครื่อง หรือมีไม่เพียงพอ เครื่องยนต์จะสึกหรอเร็วขึ้น เสี่ยงพังกลางทาง และอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการซ่อม
วิธีตรวจเช็กน้ำมันเครื่องด้วยตัวเอง
1. หาที่จอดรถให้พื้นเรียบ และดับเครื่องยนต์ รอประมาณ 5–10 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงอ่างพัก
2. เปิดฝากระโปรงและหาก้านวัดน้ำมันเครื่อง ปกติจะมีห่วงหรือด้ามจับสีเด่น เช่น เหลืองหรือส้ม
3. ดึงก้านวัดออกมาแล้วเช็ดให้สะอาด ใช้ผ้าแห้งเช็ดคราบเก่าออกให้หมด
4. เสียบก้านวัดกลับเข้าไปจนสุด แล้วดึงออกมาใหม่ คราวนี้จะเห็นระดับน้ำมันจริง
5. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง หากอยู่ระหว่างขีด Min และ Max ถือว่าปกติ แต่ถ้าต่ำกว่าต้องเติมทันที
6. สังเกตสภาพน้ำมันเครื่อง น้ำมันที่ดีควรมีสีใสหรือสีน้ำตาลเข้มแบบโปร่ง ถ้าเห็นว่าเป็นสีดำข้น มีกลิ่นไหม้ หรือขุ่นข้น ควรเปลี่ยนทันที
เคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
• ควรตรวจเช็กน้ำมันเครื่องเดือนละครั้ง หรือทุกครั้งก่อนเดินทางไกล
• ใช้น้ำมันเครื่องตามสเปกที่คู่มือรถแนะนำ
• หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเครื่องเกินกว่าขีด Max เพราะอาจทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ผิดปกติ
สรุป
การ เช็กน้ำมันเครื่องเอง ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่จำเป็นต้องเป็นช่างก็ทำได้ ใช้เวลาเพียง 3 นาที แต่ช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนได้ การใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ จะทำให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้อีกยาวนาน
