แนะนำ แต่งรถเท่แค่ไหนก็ต้องรู้กฎหมายไว้ก่อน
การแต่งรถในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะยกสูงสำหรับลุยทางวิบาก รถเก๋งโหลดเตี้ยสไตล์เรซซิ่ง หรือแม้แต่การเปลี่ยนล้อแม็กเท่ ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า "รถแต่งต้องแจ้งขนส่งไหม?" เป็นคำถามที่สำคัญมาก เพราะหากแต่งผิดประเภท หรือไม่แจ้งขนส่งให้ถูกต้อง อาจเสี่ยงต่อการถูกปรับ ถูกจับ หรือไม่ผ่านการต่อทะเบียนก็ได้
แต่งรถแบบไหนบ้างที่ต้องแจ้งขนส่ง?
หากคุณมีคำถามในใจว่า “รถแต่งต้องแจ้งขนส่งไหม?” คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับลักษณะของการแต่ง เพราะไม่ใช่ทุกอย่างจะต้องแจ้งขนส่งเสมอไป โดยการดัดแปลงรถที่เข้าข่ายต้องแจ้ง ได้แก่
การยกสูงหรือโหลดเตี้ย
- มีการเปลี่ยนความสูงของตัวรถจากมาตรฐานโรงงานเกินกว่ากำหนด (โดยทั่วไปไม่เกิน 40 มิลลิเมตร)
- เปลี่ยนระบบช่วงล่าง เช่น เปลี่ยนโช้คอัพ สปริง ยาง ที่ส่งผลต่อความสูงของรถ
การเปลี่ยนล้อแม็กหรือขนาดยาง
- เปลี่ยนล้อให้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแตกต่างจากมาตรฐานเดิมมาก
- ใส่ยางกว้างเกินไปจนล้ำออกนอกซุ้มล้อ
- เปลี่ยนจากล้อเหล็กเป็นแม็กซิ่งที่น้ำหนักเบาแต่ไม่ได้มาตรฐาน
การปรับโครงสร้างหรือดัดแปลงตัวถัง
- เปลี่ยนโครงสร้าง เช่น กระบะหลัง หรือหลังคา
- ดัดแปลงรถบ้าน รถตู้ หรือรถบรรทุกให้ใช้งานเฉพาะทาง
การติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่มีผลต่อความปลอดภัย
- เสริมกันชนหน้าหรือหลังขนาดใหญ่
- ติดตั้งราวหลังคา แร็คหลังคา กันโคลน หรือไฟเสริมที่อาจบดบังแสงไฟหลักของรถ
ต้องแจ้งขนส่งเมื่อไร?
เมื่อมีการแต่งรถที่เข้าข่าย “เปลี่ยนแปลงสภาพ” ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เจ้าของรถจะต้องดำเนินการแจ้งภายใน 30 วันหลังการดัดแปลง เพื่อให้มีการบันทึกข้อมูลที่ถูกต้องในเล่มทะเบียน และผ่านการตรวจสอบสภาพรถ
ขั้นตอนการแจ้งขนส่ง
- เตรียมเอกสาร ได้แก่ สำเนาทะเบียนรถ บัตรประชาชน และใบเสร็จอุปกรณ์หรือบริการแต่ง
- นำรถเข้าตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่งหรือสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)
- ชำระค่าธรรมเนียม และดำเนินการปรับปรุงข้อมูลในเล่มทะเบียนรถ
- รับเล่มทะเบียนกลับคืน พร้อมข้อมูลที่อัปเดตเรียบร้อย
ถ้าไม่แจ้งจะเกิดอะไรขึ้น?
การแต่งรถโดยไม่แจ้งขนส่งให้ถูกต้อง อาจมีผลกระทบหลายด้าน ดังนี้
ความเสี่ยงทางกฎหมาย
- ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับปรับ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์
- ถูกระงับการต่อภาษีหรือตรวจสภาพไม่ผ่าน
ปัญหากับประกันภัย
- บริษัทประกันอาจปฏิเสธความคุ้มครอง หากพบว่ารถถูกดัดแปลงโดยไม่แจ้งขนส่ง
- ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ อาจไม่ได้รับค่าชดเชยตามเงื่อนไขกรมธรรม์
ความปลอดภัยในการใช้งาน
- ระบบช่วงล่างหรือความสูงที่ดัดแปลงไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้รถเสียการทรงตัว
- อุปกรณ์แต่งที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
ตัวอย่างการแต่งรถที่ไม่ต้องแจ้งขนส่ง
ไม่ใช่การแต่งรถทุกรูปแบบที่จำเป็นต้องแจ้งขนส่ง หากเป็นการตกแต่งเล็กน้อย หรือไม่มีผลต่อโครงสร้างหรือสมรรถนะรถ อาจไม่ต้องดำเนินการแจ้ง เช่น
- การเปลี่ยนล้อแม็กที่ขนาดเท่ากับของเดิม
- การติดฟิล์มกรองแสงตามมาตรฐาน
- การติดตั้งสติกเกอร์ตกแต่งภายนอก
- การเปลี่ยนไฟหน้า-ไฟท้าย ที่ผ่านมาตรฐานและไม่รบกวนการมองเห็น
- การหุ้มสีด้วยฟิล์ม wrap แบบไม่ถาวร (แต่ต้องแจ้งถ้าหุ้มแบบถาวร)
หากไม่แน่ใจ แนะนำให้ติดต่อสอบถามสำนักงานขนส่งใกล้บ้านก่อนดำเนินการแต่งรถ
สรุป รถแต่งต้องแจ้งขนส่งไหม?
คำตอบคือ ต้องแจ้ง หากมีการดัดแปลงที่ส่งผลต่อโครงสร้างของรถ ความสูง น้ำหนัก หรือระบบความปลอดภัย เช่น การยกสูง โหลดเตี้ย หรือเปลี่ยนล้อขนาดใหญ่ ซึ่งเข้าข่าย “เปลี่ยนแปลงสภาพ” ตามกฎหมาย
เพื่อให้คุณแต่งรถได้อย่างสบายใจและไม่เสี่ยงต่อปัญหาทางกฎหมาย ควร
- ศึกษารายละเอียดการแต่งให้ถูกต้อง
- เตรียมเอกสารและดำเนินการแจ้งขนส่งภายในระยะเวลาที่กำหนด
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์แต่งได้มาตรฐานและปลอดภัย
การแต่งรถให้สวย เท่ หรือใช้งานเฉพาะทางนั้นสามารถทำได้อย่างเต็มที่ เพียงแค่ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและผู้อื่นบนท้องถนน
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
