ทำไมต้องใส่ใจเรื่องอายุของยางรถยนต์?
ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรงตลอดการขับขี่ แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้ามสภาพของยาง ทั้งที่จริงแล้ว “ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ” คือหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุที่ป้องกันได้ หากเรารู้ทันสัญญาณเตือนและรู้วิธีเช็กว่ายางเก่าหรือไม่ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องอายุการใช้งานของยางรถยนต์ พร้อมเทคนิคดูแลให้ใช้งานได้นานขึ้นอย่างปลอดภัย
ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานกี่ปี?
โดยทั่วไป ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปี หรือระยะทางประมาณ 50,000 - 70,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่, สภาพถนน และการดูแลรักษา
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุยาง
- สภาพอากาศ (ร้อนจัดหรือเย็นจัด)
- ความถี่ในการใช้งาน
- การจอดรถตากแดดหรือในที่ร่ม
- แรงดันลมยางที่ไม่เหมาะสม
- การตั้งศูนย์ล้อและการถ่วงล้อที่ไม่ได้มาตรฐาน
วิธีดูว่ายางรถยนต์เก่าหรือยัง?
การดูว่ายางรถยนต์เก่าหรือเสื่อมสภาพหรือยัง ไม่จำเป็นต้องเป็นช่างก็ตรวจเองได้ง่ายๆ เริ่มจากดู รหัส DOT บนแก้มยาง ตัวเลข 4 หลักท้ายจะบอกสัปดาห์และปีที่ผลิต เช่น “3219” แปลว่า ผลิตสัปดาห์ที่ 32 ปี 2019 ถ้ายางอายุเกิน 5 ปี แม้ดูใหม่ ก็ควรพิจารณาเปลี่ยน
จากนั้นสังเกต รอยแตกลายงา บนผิวยางหรือแก้มยาง ถ้าเห็นเส้นแตกเล็กๆ ชัดเจนแปลว่ายางเริ่มแข็งและเสื่อมสภาพแล้ว
อีกจุดที่สำคัญคือ ความลึกของดอกยาง ถ้าตื้นเกินไป (น้อยกว่า 2-3 มม.) จะยึดเกาะถนนไม่ดี โดยเฉพาะเวลาถนนเปียก
สุดท้ายลองดูว่าดอกยาง สึกสม่ำเสมอหรือไม่ ถ้าสึกข้างเดียวหรือไม่เท่ากัน อาจมีปัญหาที่ศูนย์ล้อ หรือยางเริ่มหมดสภาพแล้วเช่นกัน
อันตรายจากการใช้ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ
การใช้ยางที่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพ อาจนำไปสู่ปัญหาอันตรายร้ายแรง เช่น:
- ยางระเบิดขณะขับขี่ โดยเฉพาะขณะวิ่งเร็วบนทางด่วน
- ระยะเบรกยาวขึ้น ทำให้หยุดรถได้ช้ากว่าปกติ
- ควบคุมพวงมาลัยลำบาก โดยเฉพาะตอนเข้าโค้งหรือถนนเปียกลื่น
- เสียงดังหรือสั่นผิดปกติ ที่เกิดจากยางไม่สมดุล
เคล็ดลับดูแลยางให้ปลอดภัยและใช้งานได้นาน
- ตรวจเช็กลมยางสม่ำเสมอ การเติมลมยางให้พอดีช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงยางระเบิด ควรตรวจลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และเติมลมตามค่ามาตรฐานที่ระบุไว้บริเวณขอบประตูฝั่งคนขับ
- หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด แสงแดดจัดทำให้เนื้อยางแข็งและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทางที่ดีควรจอดรถในที่ร่ม หรือใช้ผ้าคลุมรถเพื่อป้องกันรังสี UV
- สลับยางทุก 10,000 กิโลเมตร เพื่อให้ยางแต่ละเส้นสึกเท่ากัน ไม่สึกเฉพาะล้อหน้า/ล้อหลัง ช่วยยืดอายุยางและทำให้การขับขี่ปลอดภัยตลอดระยะทาง
- ตั้งศูนย์และถ่วงล้อเป็นประจำ การตั้งศูนย์และถ่วงล้อทุก 10,000 - 20,000 กิโลเมตร หรือเมื่อรู้สึกว่ารถสั่นหรือพวงมาลัยเอียง จะช่วยให้ยางสึกเท่ากัน ควบคุมรถได้มั่นคง และประหยัดค่ายางในระยะยาว
เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนยาง?
ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ในกรณีต่อไปนี้
- ยางมีอายุ เกิน 5 ปี แม้ไม่ค่อยได้ใช้งาน
- มีรอยแตกลายงาชัดเจน
- ดอกยางสึกต่ำกว่าเกณฑ์
- มีรอยบวม นูน หรือยางเสียรูป
- รถเริ่มมีเสียง/อาการสั่นผิดปกติ
สรุป อย่ามองข้าม “ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ”
การรู้จักดูแลและตรวจเช็ก ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่สามารถช่วยให้คุณขับขี่ได้ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว ยางที่ดูเหมือนยังดีภายนอก อาจเสื่อมสภาพภายในโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้นควรหมั่นตรวจสอบ และหากไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาศูนย์บริการหรือช่างผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
