ทำไม “เครดิตบูโร” ถึงมักถูกเข้าใจผิด?
คนจำนวนไม่น้อยที่กำลังวางแผนจะซื้อรถ หรือขอสินเชื่อในรูปแบบต่างๆ มักกังวลเมื่อได้ยินคำว่า “เครดิตบูโร” เพราะเข้าใจว่า ถ้าติดเครดิตบูโรเท่ากับ “ติดแบล็กลิสต์” หรือ “ถูกปฏิเสธสินเชื่อแน่นอน” แต่ความจริงแล้ว เครดิตบูโรไม่ใช่แบล็กลิสต์ และไม่ใช่องค์กรที่มีอำนาจอนุมัติหรือปฏิเสธการขอสินเชื่อแต่อย่างใด
เครดิตบูโรคืออะไร?
เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (National Credit Bureau – NCB) เป็นองค์กรกลางที่รวบรวมข้อมูลสินเชื่อของประชาชนจากสถาบันการเงินต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น ธนาคาร บริษัทไฟแนนซ์ บัตรเครดิต สหกรณ์ออมทรัพย์ ฯลฯ
หน้าที่หลักของเครดิตบูโร
- จัดเก็บข้อมูลประวัติการกู้ยืมเงิน
- สรุปพฤติกรรมการชำระหนี้
- ส่งข้อมูลให้สถาบันการเงินเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาสินเชื่อ
- ไม่ได้มีอำนาจอนุมัติหรือปฏิเสธสินเชื่อ
แล้ว “แบล็กลิสต์” มาจากไหน?
คำว่า "แบล็กลิสต์" (Blacklist) ในความเข้าใจของคนทั่วไป หมายถึงการถูกปฏิเสธสินเชื่ออย่างถาวร แต่จริงๆ แล้ว ไม่มีบัญชีแบล็กลิสต์อย่างเป็นทางการในระบบของเครดิตบูโร
สิ่งที่ทำให้บางคน “ถูกปฏิเสธสินเชื่อ” เกิดจากเหตุผล เช่น
- มีประวัติชำระหนี้ล่าช้าหรือผิดนัดบ่อยครั้ง
- เป็นหนี้เสีย (Non-Performing Loan – NPL)
- มีภาระหนี้สูงจนเกินความสามารถในการชำระคืน
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียง “ประวัติ” ที่สถาบันการเงินนำไปใช้วิเคราะห์ความเสี่ยงเท่านั้น
ข้อเท็จจริง! ทำไมเครดิตบูโรไม่ใช่แบล็กลิสต์
- เครดิตบูโรไม่ตัดสินใจอนุมัติสินเชื่อ
การพิจารณาสินเชื่อเป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินเท่านั้น เช่น ธนาคาร หรือไฟแนนซ์ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ข้อมูลจากเครดิตบูโร - เครดิตบูโรแค่รายงานพฤติกรรม
ระบบของเครดิตบูโรจะบันทึกการชำระเงินของคุณอย่างเป็นกลาง เช่น จ่ายตรงเวลา ล่าช้า 30 วัน หรือผิดนัด เป็นต้น โดยไม่มีการ “ตัดสินว่าให้ผ่านหรือไม่” - ไม่มีคำว่า "ติดเครดิตบูโร"
หลายคนพูดว่า “กลัวติดเครดิตบูโร” ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะทุกคนที่เคยกู้ยืมจะมีข้อมูลอยู่ในเครดิตบูโรอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดหรือเสียหาย
ปัจจัยที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาสินเชื่อ
แม้ เครดิตบูโรไม่ใช่แบล็กลิสต์ แต่ประวัติที่ดีหรือไม่ดีก็มีผลต่อการพิจารณา ดังนั้นควรรู้ว่าไฟแนนซ์ดูอะไรบ้าง
ปัจจัยหลักที่มักนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ
- รายได้ต่อเดือนและความสามารถในการชำระหนี้
- ภาระหนี้รวม (Debt-to-Income Ratio)
- ประวัติการผ่อนชำระในอดีต
- อาชีพ/ความมั่นคงของรายได้
- ประวัติการผิดนัดหนี้ในช่วง 24 เดือนล่าสุด
วิธีเช็กเครดิตบูโรด้วยตัวเอง
ทุกคนสามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องรอให้สถาบันการเงินแจ้ง
วิธีขอรายงานเครดิตบูโร
- ผ่านแอปพลิเคชัน เช่น Krungthai NEXT, TMB Touch, SCB EASY
- เว็บไซต์เครดิตบูโร: www.ncb.co.th
- ตรวจสอบที่เคาน์เตอร์ธนาคารที่ร่วมรายการ
- มีค่าธรรมเนียมเพียง 100 บาทต่อครั้ง
คำแนะนำสำหรับคนที่มีประวัติชำระหนี้ล่าช้า
หากคุณเคยมีประวัติค้างชำระหนี้ ไม่ต้องตกใจ เพราะยังมีทางฟื้นฟูเครดิตได้
แนวทางปรับปรุงเครดิต
- จ่ายหนี้ที่ค้างให้ครบถ้วน
- ไม่ผิดนัดชำระหนี้ใหม่ๆ อีก
- อย่าสร้างหนี้ใหม่ในช่วงระยะสั้น
- รอเวลาประวัติเสียหลุด (ประมาณ 3 ปี)
หากปัจจุบันมีประวัติดีและมีรายได้แน่นอน สถาบันการเงินบางแห่งยังอาจอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แม้เคยมีปัญหาในอดีต
สรุป เข้าใจใหม่ว่า “เครดิตบูโรไม่ใช่แบล็กลิสต์”
ความเข้าใจผิดว่า “เครดิตบูโรคือแบล็กลิสต์” อาจทำให้หลายคนไม่กล้ายื่นขอสินเชื่อหรือกลัวการตรวจเครดิต ทั้งที่ในความเป็นจริง เครดิตบูโรไม่ใช่แบล็กลิสต์ แต่เป็นเพียงระบบที่จัดเก็บประวัติการเงินของคุณแบบเป็นกลาง
จุดสำคัญที่ควรจำ
- เครดิตบูโรไม่มีอำนาจปฏิเสธสินเชื่อ
- ไม่มีคำว่า “ติดเครดิตบูโร” เพราะทุกคนมีข้อมูล
- ประวัติชำระดี = โอกาสสินเชื่อผ่านง่าย
- ประวัติเสีย = แก้ไขได้ ไม่ใช่ตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต
การเข้าใจเครดิตบูโรอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสในการออกรถหรือขอสินเชื่อสำเร็จอย่างมั่นใจ
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
