แบนเนอร์
ค้นหารถ

หน้าแรก > บทความ > รถไฮบริดลุยน้ำท่วมได้แค่ไหน จุดเสี่ยงพังอยู่ตรงไหน? แนะนำก่อนลุย | 2025-05-26 17:38:01
รถไฮบริดลุยน้ำท่วมได้แค่ไหน จุดเสี่ยงพังอยู่ตรงไหน? แนะนำก่อนลุย

รถไฮบริดลุยน้ำท่วมได้ลึกแค่ไหนโดยไม่เสี่ยงพัง?

รถไฮบริดลุยน้ำได้ไหม? เป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนเริ่มถามกันมากขึ้นในช่วงหน้าฝนที่มักเกิดน้ำท่วมขังบนถนน แม้รถไฮบริดจะขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่เมื่อพูดถึงการลุยน้ำแล้ว ความกังวลใจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า แบตเตอรี่ และความปลอดภัยก็เกิดขึ้นทันที บทความนี้จะพาคุณมาหาคำตอบอย่างละเอียดว่า รถไฮบริดสามารถลุยน้ำลึกได้แค่ไหน และควรระวังอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้รถต้องจอดเสียกลางทางหรือเสียหายร้ายแรง

รถไฮบริดคืออะไร? มีระบบไฟฟ้าที่ต้องระวังไหม?

รถไฮบริด (Hybrid Vehicle) คือรถที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน (น้ำมัน) กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบที่ควรระวังเมื่อลุยน้ำ

  • แบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery): มักติดตั้งไว้ใต้เบาะหลังหรือใต้ท้องรถ
  • สายไฟแรงสูงและมอเตอร์ไฟฟ้า: หากมีการรั่วซึมของน้ำเข้าไปในระบบนี้ อาจทำให้รถเสียหายรุนแรงหรืออันตรายได้
  • ระบบควบคุมไฟฟ้า (ECU): เสี่ยงต่อความเสียหายหากน้ำเข้าไปถึงตัวควบคุม

รถไฮบริดลุยน้ำได้ลึกแค่ไหน?

ระดับน้ำที่ไม่ควรเกิน: "ครึ่งล้อ"

โดยทั่วไปแล้ว น้ำไม่ควรสูงเกิน "กึ่งกลางล้อ" ของรถ ซึ่งจะประมาณ 30-40 ซม. (แล้วแต่ขนาดรถ) เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่อไอดีหรือแบตเตอรี่ที่อยู่ใต้ท้องรถ

หากน้ำสูงกว่าครึ่งล้อ อาจเกิดผลเสียดังนี้

  • น้ำเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ ทำให้เกิด “Water Hammer” หรือเครื่องยนต์พังได้
  • น้ำเข้าระบบแบตเตอรี่แรงสูง ทำให้เกิดไฟลัดวงจรหรือระบบดับกลางทาง
  • ECU จมน้ำ เสียหายหลักหมื่นถึงแสนบาท

อะไรคือสัญญาณเตือนว่า “รถไฮบริดลุยน้ำไม่ได้”?

  • ระบบเตือน Check Hybrid System แสดงขึ้นบนหน้าจอ
  • มีกลิ่นไหม้ หรือกลิ่นเหม็นจากใต้ท้องรถ
  • รถดับกลางทางหรือสตาร์ทไม่ติดหลังจากจอด
  • เบรกตอบสนองช้าหรือมีเสียงผิดปกติ

ข้อควรระวังเมื่อขับรถไฮบริดลุยน้ำ

ตรวจเช็กก่อนลุย

  • ตรวจระดับน้ำจากรถคันอื่นก่อนเข้าไป
  • ดูเส้นทางว่ามีหลุมหรือถนนทรุดหรือไม่
  • ปิดระบบแอร์ (เพื่อไม่ให้พัดลมหม้อน้ำทำงานขณะลุยน้ำ)

การขับขี่ขณะลุยน้ำ

  • ใช้เกียร์ต่ำและขับช้า ๆ (ไม่เกิน 10-20 กม./ชม.)
  • อย่าหยุดกลางน้ำ เพราะอาจทำให้น้ำซึมเข้าสู่ระบบท่อ
  • อย่าเร่งเครื่องหรือเบรกกะทันหัน

หลังผ่านน้ำท่วม

  • เหยียบเบรกเบา ๆ หลายครั้งเพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
  • สังเกตกลิ่น เสียง หรือสัญญาณผิดปกติ
  • ล้างรถทันที โดยเฉพาะใต้ท้องรถ

รถไฮบริดบางรุ่นมีการซีลระบบไฟฟ้าไว้ดีขึ้น

ผู้ผลิตหลายรายได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้รถไฮบริดลุยน้ำได้มากขึ้น โดยมีการซีลแบตเตอรี่ด้วยระบบกันน้ำ เช่น

  • Toyota Hybrid (Camry Hybrid, Corolla Cross Hybrid) มีระบบซีลแบตเตอรี่แน่นหนา
  • Honda e:HEV (City, Civic) ออกแบบให้ระบบไฟฟ้าอยู่สูงกว่าระดับท้องรถ
  • Lexus Hybrid มักมีมาตรฐานการซีลที่ทนต่อน้ำได้ดีในระดับหนึ่ง

แต่ถึงจะมีซีลกันน้ำ คำแนะนำก็ยังคือ “หลีกเลี่ยงการลุยน้ำถ้าทำได้” เพราะความเสี่ยงยังคงมีอยู่

ถ้าจำเป็นต้องลุยน้ำ ต้องเตรียมตัวยังไง?

  • ติดตั้งยางกันน้ำใต้ท้องรถ
  • ตรวจสอบซีลยางและฝาครอบเครื่องยนต์
  • พกเบอร์ติดต่อช่างหรือศูนย์บริการใกล้มือ
  • ซื้อประกันที่คุ้มครองกรณีรถเสียจากน้ำท่วม

รถไฮบริดลุยน้ำได้ แต่ต้องมีสติและไม่ประมาท

แม้รถไฮบริดลุยน้ำได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ควรเสี่ยงเกินกึ่งกลางล้อ และต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำเข้าเครื่องยนต์หรือระบบไฟฟ้า อาจทำให้คุณต้องเสียเงินหลักหมื่นถึงหลักแสน

แนะนำ: หากพบว่าน้ำท่วมลึกเกินครึ่งล้อ อย่าฝืนขับเข้าไป ควรจอดในที่ปลอดภัยหรือหาทางเลี่ยงเส้นทางนั้นแทน เพื่อรักษาทั้งรถและความปลอดภัยของคุณเอง


เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
DRMCARS (ดรีมคาร์)

รับข้อเสนอรถมือสองสุดพิเศษ รถซุปเปอร์คาร์ รถพรีเมี่ยมคาร์ Benz BMW Lexus Mini Audi Porsche รถตู้พรีเมี่ยม Alphard Vellfire H1 Caravell Vito อื่นๆ คัดสรรสภาพการันตีไมล์แท้ อยากได้รถที่ดีต้องรถที่ดรีม

© Copyrights. All rights reserved. DRMCARS (ดรีมคาร์)

รถยอดนิยม
ติดต่อเรา

เบอร์.088-85-99999
อีเมล์ drmcars2024@gmail.com
ไอดีไลน์ @dreamcar

บริษัท ดรีมคาร์มาร์ท จำกัด
88/88 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เลขผู้เสียภาษี : 0105564028618
โทร : 02-44-99999 (ฝ่ายขาย)
โทร : 02-44-88888 (ฝ่ายบัญชี)