รู้ไหม? คลุมรถทั้งที แต่ผ้าคลุมไม่มีคุณภาพ = พัง!
หลายคนอาจคิดว่าแค่มีผ้าคลุมรถก็เพียงพอแล้วในการปกป้องรถจากฝุ่น แสงแดด หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ แต่ในความเป็นจริง หากเลือกใช้ผ้าคลุมรถที่ไม่มีคุณภาพดีพอ อาจกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้รถเสียหายได้ โดยเฉพาะกับผิวสีรถที่ต้องสัมผัสกับฝุ่นละอองและความชื้นทุกวันโดยที่เราไม่ทันสังเกต
ฝุ่นละอองกับสีรถ ใครชนะ?
ในแต่ละวัน รถยนต์ต้องเผชิญกับฝุ่น ละอองทราย และสิ่งสกปรกจากสภาพแวดล้อมที่ลอยมากับลม แม้จะมีผ้าคลุมปกป้องไว้ แต่หากผ้าคลุมไม่มีความหนาแน่น หรือไม่มีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นอย่างแท้จริง ฝุ่นเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้าไปด้านในและเกาะกับผิวรถได้อยู่ดี
เมื่อเจ้าของรถถอดหรือขยับผ้าคลุม ฝุ่นที่แทรกอยู่ระหว่างผ้ากับผิวรถจะทำหน้าที่เสมือนกระดาษทรายขนาดย่อม ก่อให้เกิดรอยขีดข่วนบนชั้นเคลือบสีโดยไม่รู้ตัว และเมื่อสะสมไปนาน ๆ อาจทำให้ผิวรถหมอง หรือมีรอยถาวนได้
ยิ่งคลุม...ยิ่งต้องระวัง
หลายคนเลือกคลุมรถเพราะไม่ได้ใช้งานทุกวัน และเชื่อว่าจะช่วยถนอมรถไว้ได้ แต่การใช้ผ้าคลุมที่ไม่มีมาตรฐานในการระบายอากาศหรือไม่มีคุณสมบัติกันชื้น อาจก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่กว่า เช่น ความชื้นสะสมภายในผ้าคลุม ส่งผลให้เกิดเชื้อรา กลิ่นอับ หรือแม้แต่ความเสียหายจากฝุ่นที่ถูกกักอยู่ภายในจนทำลายสีรถโดยตรง
วิธีเลือกผ้าคลุมรถที่เหมาะสม
- มีซับในเนื้อนุ่ม ป้องกันการเสียดสี ไม่ขูดสีรถ
- สามารถกันน้ำ กันรังสียูวี และกันฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีระบบระบายอากาศ ลดการสะสมของความร้อนและความชื้น
- ตัดเย็บให้กระชับพอดีกับตัวรถ ป้องกันการพัดปลิวหรือฝุ่นเล็ดลอด
สรุป
การดูแลผิวรถให้เงางามอยู่เสมอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการล้างหรือเคลือบสีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเลือกผ้าคลุมรถที่ได้มาตรฐานด้วย เพราะผิวรถคือภาพลักษณ์ภายนอกที่สร้างความประทับใจแรกให้กับผู้พบเห็น การลงทุนกับผ้าคลุมที่มีคุณภาพจึงคุ้มค่ามากกว่าการเสียเงินซ่อมหรือแก้สีรถในภายหลัง
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
